นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)

บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด

1. บทนำ
   บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด และบริษัทในเครือ รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของบริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกรวมว่า “บริษัทฯ”) ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลอื่นอันเกี่ยวกับท่าน(ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “ข้อมูล”) เพื่อให้ท่านสามารถเชื่อมั่นได้ว่าบริษัทฯ มีความโปร่งใสและมีความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
   
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “นโยบาย”) นี้จึงได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงแก่ท่านถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกรวมเรียกว่า “ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งดำเนินการ โดยบริษัทฯ รวมถึงเจ้าหน้าที่ และบุคคลที่เกี่ยวข้องผู้ดำเนินการ แทนหรือในนามของบริษัทฯ โดยมีเนื้อหาสาระดังต่อไปนี้
 
2. ขอบเขตการบังคับใช้นโยบาย
   นโยบายนี้ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลซึ่งมีความสัมพันธ์กับบริษัทฯ ในปัจจุบัน และที่อาจมีในอนาคต ซึ่งถูกประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัทฯ เจ้าหน้าที่ พนักงานตามสัญญา หน่วยธุรกิจ หรือหน่วยงานรูปแบบอื่นที่ดำเนินการโดยบริษัทฯ และรวมถึงคู่สัญญา หรือบุคคลภายนอกที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทน หรือในนามของบริษัทฯ (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกรวมเรียกว่า “ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล”) ภายใต้ผลิตภัณฑ์ และบริการต่างๆ เช่น เว็บไซต์ ระบบ แอปพลิเคชัน เอกสาร หรือบริการในรูปแบบอื่น ที่ควบคุมดูแลโดยบริษัทฯ(ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกรวมว่า “บริการ”)

   บุคคลมีความสัมพันธ์กับบริษัทฯ ตามความในวรรคแรก รวมถึง

            1) ลูกค้าบุคคลธรรมดา
            2) เจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงาน ลูกจ้าง
            3) คู่ค้า ซัพพลายเออร์ ผู้รับเหมา ผู้รับเหมาช่วง และผู้ให้บริการ ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา
            4) กรรมการ ผู้รับมอบอำนาจ ผู้แทน ตัวแทน ผู้ถือหุ้น ลูกจ้าง หรือบุคคลอื่นที่มีความสัมพันธ์ ในรูปแบบเดียวกันของนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับบริษัทฯ
            5) ผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ หรือบริการของบริษัทฯ โดยเมื่อท่านติดต่อบริษัทฯ บริษัทฯ อาจเก็บข้อมูล เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ อีเมล เบอร์โทร และรายละเอียดการติดต่ออื่นๆ ทั้งนี้อาจบันทึกคำถามของท่านและการติดต่อสื่อสารโต้ตอบของท่านกับบริษัทฯ
            6) ผู้เข้าชมหรือใช้งานเว็บไซต์ https://www.mitsubishi-kyw.co.th รวมทั้งระบบ แอปพลิเคชัน อุปกรณ์ เช่น ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด รายละเอียดการติดต่อ และความสนใจ หรือช่องทางการสื่อสารอื่นซึ่งควบคุมดูแลโดยบริษัทฯ
            7) บุคคลอื่นที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ผู้สมัครงาน ครอบครัวของเจ้าหน้าที่ผู้ค้ำประกัน ผู้รับประโยชน์ในกรมธรรม์ประกันภัย เป็นต้น
               ข้อ 1) ถึง 7) เรียกรวมกันว่า “ท่าน

     นอกจากนโยบายฉบับนี้แล้ว บริษัทฯ อาจกำหนดให้มีคำประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว (ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า“ประกาศ”) สำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทฯ เพื่อชี้แจงให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้ใช้บริการได้ทราบถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกประมวลผล วัตถุประสงค์ และเหตุผลอันชอบด้วยกฎหมาย ในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพึงมีในผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้นเป็นการเฉพาะเจาะจง
ทั้งนี้ ในกรณีที่มีความขัดแย้งกันในสาระสำคัญระหว่างความในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและนโยบายนี้ ให้ถือตามความในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของบริการนั้น
 

3. คำนิยาม
    
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดา ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
    -
 ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งได้แก่ ข้อมูลเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนา หรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
    - การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง การดำเนินการใดๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เก็บรวบรวม บันทึก สำเนา จัดระเบียบ เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ใช้ กู้คืน เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน รวม ลบ ทำลาย เป็นต้น
    -
 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลธรรมดา ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
    - 
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคล หรือนิติบุคคล ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
    -
 ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคล หรือนิติบุคคล ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่ง หรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้บุคคล หรือนิติบุคคล ซึ่งดำเนินการดังกล่าว ไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ทำการประมวลผล
   4.1 ข้อมูลที่ท่านให้แก่บริษัทฯ ในระหว่างที่ท่านได้ทำการติดต่อกับบริษัทฯ ดังต่อไปนี้
        1) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงในช่องทางให้บริการต่างๆ เช่น ขั้นตอนการสมัคร ลงทะเบียน สมัครงานลงนามในสัญญา เอกสาร ทำแบบสำรวจหรือ ใช้งานผลิตภัณฑ์ บริการ หรือช่องทางให้บริการอื่นที่ควบคุมดูแลโดยบริษัทฯ หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อสื่อสารกับบริษัทฯ ณ ที่ทำการ หรือผ่านช่องทางติดต่ออื่นที่ควบคุมดูแลโดยบริษัทฯ เป็นต้น
        2) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมเมื่อท่านซื้อ ส่งซ่อม หรือส่งคืนผลิตภัณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่งของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ อาจขอให้ท่านให้ข้อมูล เช่น รายละเอียดการติดต่อ และข้อมูลการชำระเงินเป็นต้น 
        3) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ขอให้ท่านกรอกแบบสำรวจที่บริษัทฯ ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิจัย และพัฒนาสินค้ารวมถึงการให้บริการหลังการขาย เป็นต้น
        4) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ขอให้ท่านกรอก เมื่อท่านสร้างบัญชีเพื่อใช้บริการออนไลน์ของบริษัทฯ เป็นต้น
   4.2 ข้อมูลที่เก็บรวบรวมเพื่อการใช้งานเว็บไซต์และการสื่อสาร
       ข้อมูลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์หรือบริการอื่นๆ ตามสัญญาหรือตามพันธกิจ เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทฯ ด้วยการใช้คุกกี้ (Cookies) หรือจากซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
   4.3 ข้อมูลที่ได้รับจากแหล่งอื่น
        ในกรณีที่ท่านซื้อสินค้าของบริษัทฯ จากผู้ค้าปลีก บริษัทฯ อาจจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อสินค้าของท่านจากผู้ค้าปลีกนั้น รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นนอกจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยที่แหล่งข้อมูลดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ มีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายหรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้วในการเปิดเผยข้อมูลแก่บริษัทฯ เช่น การเชื่อมโยงบริการดิจิทัลของหน่วยงานของรัฐในการให้บริการเพื่อประโยชน์สาธารณะแบบเบ็ดเสร็จแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเอง การรับข้อมูลส่วนบุคคลจากหน่วยงานของรัฐแห่งอื่นในฐานะที่บริษัทฯ มีหน้าที่ตามพันธกิจในการดำเนินการจัดให้มีศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลกลางเพื่อสนับสนุนการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐในการให้บริการประชาชนผ่านระบบดิจิทัล รวมถึงจากความจำเป็นเพื่อให้บริการตามสัญญาที่อาจมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลกับหน่วยงานคู่สัญญาได้
       นอกจากนี้ ยังหมายความรวมถึงกรณีที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่บริษัทฯ ดังนี้ ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งรายละเอียดตามนโยบายนี้หรือประกาศของผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ตามแต่กรณี ให้บุคคลดังกล่าวทราบ ตลอดจนขอความยินยอมจากบุคคลนั้นหากเป็นกรณีที่ต้องได้รับ ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลแก่บริษัทฯ  
       ทั้งนี้ ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลที่มีความจำเป็นในการให้บริการของบริษัทฯอาจเป็นผลให้บริษัทฯ ไม่สามารถให้บริการนั้นแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ทั้งหมดหรือบางส่วน

5. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
   โดยบริษัทฯ จะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อน ยกเว้นในกรณีดังต่อไปนี้
    1. เพื่อปฏิบัติตามสัญญา กรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อความจำเป็นต่อการให้บริการ หรือปฏิบัติตามสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลและบริษัทฯ
    2. เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ
    3. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
    4. เพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย กรณีมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์อันชอบธรรมในการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ จะพิจารณาถึงสิทธิของเจ้าของข้อมูลเป็นสำคัญ เช่น เพื่อป้องกันการฉ้อโกงการรักษาความปลอดภัยในระบบเครือข่ายการปกป้องสิทธิเสรีภาพและประโยชน์ของเจ้าของข้อมูล เป็นต้น
    5. เพื่อการศึกษาวิจัย หรือสถิติ กรณีที่มีการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัย หรือสถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล
    6. เพื่อปฏิบัติภารกิจของรัฐ กรณีมีความจำเป็นต่อการปฏิบัติตามภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจรัฐที่บริษัทฯ ได้รับมอบหมายในกรณีที่บริษัทฯมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา  การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือเพื่อความจำเป็นในการเข้าทำสัญญา หากท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล หรือคัดค้านการดำเนินการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรมอาจมีผลทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการ หรือให้บริการตามที่ท่านร้องขอได้ทั้งหมดหรือบางส่วน
    

6. ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม
   ในการเก็บรวบรวม และเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย และจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของบริษัทฯ อันประกอบด้วย
 
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล รายละเอียด และตัวอย่าง
ข้อมูลเฉพาะตัวบุคคล
ข้อมูลระบุชื่อเรียกของท่าน หรือข้อมูลจากที่ระบุข้อมูลเฉพาะตัวของท่าน เช่น ชื่อ-นามสกุล, อายุ, วันเดือนปีเกิด, สัญชาติ,  หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือหมายเลขหนังสือเดินทาง หรือเอกสารราชการอื่น ๆ ที่สามารถระบุตัวตนได้ เป็นต้น
 
ข้อมูลสำหรับการติดต่อ
ข้อมูลสำหรับการติดต่อท่าน เช่น ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล, ชื่อบัญชี Social media เป็นต้น
 
ข้อมูลเอกสารทางราชการ
ข้อมูลเอกสารราชการของท่าน เช่น สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาหนังสือเดินทาง, สำเนาสูติบัตร เป็นต้น
 
ข้อมูลทางการเงิน
ข้อมูลทางการเงินของท่าน เช่น เลขบัญชีเงินธนาคาร, สำเนาหน้าบัญชีธนาคาร, ข้อมูลเลขบัตรเครดิต, รายได้ เป็นต้น
 
ข้อมูลที่ได้จากเก็บรวบรวมของบริษัทฯ หรือระบบอัตโนมัติ
จากอุปกรณ์ต่างๆ ของบริษัทฯ

ข้อมูลที่ได้จากเก็บรวบรวมของบริษัทฯ หรือระบบอัตโนมัติจากอุปกรณ์ต่างๆ ของบริษัทฯ เช่น รหัสพนักงาน, หมายเลขใบอนุญาตเข้าทำงาน, ภาพจากกล้องวงจรปิด เป็นต้น
 
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนของท่าน เช่น เชื้อชาติ  ข้อมูลศาสนา ข้อมูลความพิการ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลชีวภาพ (ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ, ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า)
ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ เป็นต้น


7นโยบายคุกกี้
   
บริษัทฯ ใช้คุกกี้บนเว็บไซต์ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมว่าบริษัทฯ ใช้คุกกี้อย่างไรโปรดดูนโยบายคุกกี้ของบริษัทฯ

8. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
   บริษัทฯ ดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์หลายประการ ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของผลิตภัณฑ์หรือบริการหรือกิจกรรมที่ท่านใช้บริการ ตลอดจนลักษณะความสัมพันธ์ของท่านกับบริษัทฯ หรือข้อพิจารณาในแต่ละบริบทเป็นสำคัญ และระบุฐานตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เป็นเพียงกรอบการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ เป็นการทั่วไปทั้งนี้เฉพาะวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านใช้งานหรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้กับข้อมูลของท่าน โปรดทราบว่านอกเหนือจากการประมวลผลที่บริษัทฯ ระบุไว้ด้านล่าง บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่บริษัทฯ อธิบายไว้ในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (สำหรับบุคคลภายนอก) และบริษัทในเครือของเราที่ดำเนินกิจกรรมในนามของบริษัทฯ ตลอดจนสมาชิกอื่นๆ ของกลุ่มบริษัทมิตซูบิชิ อิเล็คทริค
    1. เพื่อเข้าทำสัญญา หรือปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับเจ้าของข้อมูล หรือปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับบุคคลภายนอกเพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูล
    2. เพื่อตอบคำถามและให้ความช่วยเหลือแก่เจ้าของข้อมูล
    3. เพื่อพัฒนาและปรับปรุงสินค้า ผลิตภัณฑ์ และบริการของบริษัทฯ ให้ตอบสนองต่อความต้องการของเจ้าของข้อมูลมากยิ่งขึ้น
    4. เพื่อให้ข้อมูลและแนะนำสินค้า ผลิตภัณฑ์ การบริการ หรือประชาสัมพันธ์ทางการตลาดรายการส่งเสริม การขาย หรือสิทธิประโยชน์ผ่านช่องทางการติดต่อที่ได้รับจากเจ้าของข้อมูล ตามที่เจ้าของข้อมูลได้ให้คำยินยอม ตามที่ท่านได้ยินยอมกับทางบริษัทฯ
    5. เพื่อสำรวจความคิดเห็น วิเคราะห์ การทำวิจัย และจัดทำข้อมูลทางสถิติ เพื่อใช้ทางการตลาดหรือการพัฒนาและปรับปรุงการดำเนินกิจการของบริษัทฯตามที่ท่านได้ยินยอมกับทางบริษัทฯ
    6. เพื่อการทำการตลาดออนไลน์บนเว็บไซต์ของบริษัทฯ ที่ปรับให้เข้ากับความต้องการหรือความสนใจของท่าน บริษัทฯ จะใช้เทคโนโลยีการตัดสินใจอัตโนมัติที่ติดตามข้อมูล เช่น ประวัติการเรียกดูข้อมูลบนเว็บไซต์ของบริษัทฯลิงก์ที่ท่านคลิกบนอีเมลของบริษัทฯ หรือแอปพลิเคชันมือถือที่ท่านใช้งาน
    7. เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการงานหรือดำเนินงานภายในของบริษัทฯ ที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
    8. เพื่อตรวจสอบ กำกับดูแล และรักษาความปลอดภัยบริเวณอาคารหรือสถานที่ของบริษัทฯ
    9. เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัทฯ เช่น การหักภาษี ณ ที่จ่าย เป็นต้น
   10. เพื่อให้ข้อมูลแก่หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายตามที่หน่วยงานภาครัฐร้องขอ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสรรพากร ศาล เป็นต้น
   11. เพื่อดำเนินกิจกรรมใดๆ ทางบัญชีและการเงิน เช่น การตรวจสอบบัญชี การแจ้ง และเรียกเก็บหนี้การใช้สิทธิสวัสดิการต่างๆ ภาษีและหลักฐานการดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ ที่กฎหมายกำหนด
   12. เพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ เช่น การบันทึกเสียงการร้องเรียนผ่านระบบ Call Center, การบันทึกภาพผ่านกล้อง CCTV เป็นต้น
   13. เพื่อใช้ในการสอบสวน และปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ หรือหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัทฯ
   14. ใช้ข้อมูลในการยืนยันตัวตนลูกค้า
   15. วัตถุประสงค์อื่นๆ ที่ได้รับคำยินยอมชัดแจ้งจากท่าน

9. การส่งต่อและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
   บริษัทฯ จะไม่เปิดเผย และส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังหน่วยงานภายนอก เว้นแต่ได้รับคำยินยอมชัดแจ้งจากท่าน หรือเป็นไปตามกรณีดังต่อไปนี้
    1. เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ บริษัทฯอาจจำเป็นต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลเฉพาะเท่าที่จำเป็นแก่คู่ค้า ผู้ให้บริการ หรือหน่วยงานภายนอก โดยบริษัทฯ จะจัดทำข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
    2. บริษัทฯ อาจเปิดเผย หรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ หน่วยงานภายใต้หรือในเครือของบริษัทฯโดยจะเป็นการประมวลผลข้อมูลภายใต้วัตถุประสงค์ ที่ระบุในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เท่านั้น
    3. กฎหมายหรือกระบวนการทางกฎหมายบังคับให้เปิดเผยข้อมูล หรือเปิดเผยต่อเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่รัฐ หรือหน่วยงานที่มีอำนาจเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งหรือคำขอที่ชอบด้วยกฎหมาย

10. การถ่ายโอนหรือส่งต่อข้อมูลไปยังต่างประเทศ
    10.1 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการเข้าถึงโดยผู้ปฏิบัติงานหรือซัพพลายเออร์ ถ่ายโอนไปยังและ/หรือจัดเก็บที่ปลายทางนอกประเทศไทย เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้กำหนดไว้ ซึ่งกฎหมายคุ้มครองข้อมูลในพื้นที่นั้นอาจมีมาตรฐานต่ำกว่าในประเทศไทย ทั้งนี้บริษัทฯ จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กำหนดไว้ในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ในทุกกรณี
    10.2 ในกรณีที่บริษัทฯ ถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลจากประเทศไทยไปยังนอกประเทศไทย บริษัทฯอาจจำเป็นต้องดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเป็นการเฉพาะเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องและผลประโยชน์ของท่าน ทั้งนี้ในบางประเทศนอกประเทศไทยอาจได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลว่ามีการคุ้มครองที่สำคัญเทียบเท่ากับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลของไทย ในประเทศที่ไม่ได้รับการอนุมัติ บริษัทฯ จะกำหนดฐานตามกฎหมายในการโอนข้อมูลดังกล่าว เช่น ความยินยอมของท่าน หรือฐานตามกฎหมายอื่น ๆ ที่ข้อกำหนดทางกฎหมายที่บังคับใช้อนุญาตให้กระทำได้

11. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้น และตามความจำเป็นทางธุรกิจและข้อกำหนดทางกฎหมาย ตามรายละเอียดที่ได้กำหนดไว้ในนโยบาย ประกาศหรือตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสิ้นความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้ว บริษัทฯ จะทำการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนได้ต่อไป ตามรูปแบบและมาตรฐานการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ดี ในกรณีที่มีข้อพิพาท การใช้สิทธิหรือคดีความอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด เมื่อไม่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอีกต่อไป บริษัทฯ อาจทำให้ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลแบบไม่เปิดเผยชื่ออย่างถาวร (และบริษัทฯ อาจเก็บรักษาและใช้ข้อมูลที่ไม่เปิดเผยชื่อนั้นต่อไป) หรือทำลายข้อมูลดังกล่าวอย่างปลอดภัยก็ได้

12. การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
    บริษัทฯ จะใช้มาตรการทางเทคนิค และการบริหารจัดการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีการเข้ารหัสสำหรับการส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะผู้เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนของข้อมูลที่จัดเก็บในรูปแบบเอกสารและอิเล็กทรอนิกส์

13. การเชื่อมต่อเว็บไซต์หรือบริการภายนอก
     บริการของบริษัทฯ อาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม ซึ่งเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวอาจมีการประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีเนื้อหาสาระแตกต่างจากนโยบายนี้  บริษัทฯ ขอแนะนำให้ท่านศึกษานโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการนั้นๆ เพื่อทราบในรายละเอียดก่อนการเข้าใช้งาน ทั้งนี้ บริษัทฯ ไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีอำนาจควบคุมถึงมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าว และไม่สามารถรับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบายความเสียหาย หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์ หรือบริการของบุคคลที่สาม

14เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    บริษัทฯ ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบ กำกับ และให้คำแนะนำในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการประสานงาน และให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

15สิทธิของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
    ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด และตามที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้ได้ดังต่อไปนี้
    1. สิทธิในการขอเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล
    2. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลดังกล่าวให้เป็นปัจจุบัน และถูกต้อง
    3. สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัทฯ ได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่าน หรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ
    4. สิทธิในการขอลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอม
    5. สิทธิในการขอระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีเมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือเมื่อข้อมูลดังกล่าวหมดความจำเป็น
    6. สิทธิในการถอนความยินยอม ในการประมวลผลข้อมูลที่ผู้ใช้บริการเคยให้ไว้
    7. สิทธิในการขอคัดค้าน เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลเมื่อใดก็ได้

 16. มาตรการรักษาความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล
      บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯจึงกำหนดให้มีและทบทวนมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ ดัดแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิ หรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตลอดจนการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาต ทั้งนี้ให้เป็นไปตามที่กำหนดในระเบียบว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ระเบียบว่าด้วยการจัดการความปลอดภัยของข้อมูลที่เป็นความลับ ระเบียบว่าด้วยการจัดการอินเทอร์เน็ตเว็บไซต์ ระเบียบว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ของบริษัทฯ
      ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านมอบให้บริษัทฯ เป็นเอกสารและมีข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวซึ่งบริษัทฯ ไม่ได้ขอแสดงอยู่ด้วย บริษัทฯ จะทำการลบหรือทำด้วยประการใดให้ไม่ปรากฎข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวบนเอกสารนั้น

 17. ความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต
     17.1 การส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตหรือเว็บไซต์ไม่อาจรับประกันได้ว่าจะปลอดภัยจากการบุกรุก อย่างไร ก็ตามบริษัทฯ จะคงไว้ซึ่งการป้องกันทางกายภาพ การป้องกันทางอิเล็กทรอนิกส์ และการป้องกันตามขั้นตอนตามสมควรในเชิงพาณิชย์เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามข้อกำหนดทางกฎหมายด้านการคุ้มครองข้อมูล
     17.2 ข้อมูลทั้งหมดที่ท่านให้แก่บริษัทฯ จะจัดเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ที่ปลอดภัยของบริษัทฯ และจะมีการเข้าถึงและใช้งานตามนโยบายและมาตรฐานความปลอดภัยของบริษัทฯ ในกรณีที่บริษัทฯ ให้รหัสผ่านแก่ท่าน (หรือกรณีที่ท่านเลือกรหัสผ่าน)ซึ่งทำให้ท่านสามารถเข้าถึงบางส่วนของเว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้ ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการเก็บรักษารหัสผ่านนี้ไว้เป็นความลับ และต้องปฏิบัติตามกระบวนการรักษาความปลอดภัย อื่นใดที่บริษัทฯ แจ้งให้ท่านทราบ บริษัทฯ ขอให้ท่านอย่าแจ้งรหัสผ่านแก่บุคคลใดๆ 

18. การแจ้งการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
    
เมื่อมีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะแจ้งเหตุการณ์ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลแก่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายใน 72 ชั่วโมงนับแต่ทราบเหตุ เท่าที่สามารถกระทำได้ เว้นแต่การละเมิดนั้นไม่มีความเสี่ยงที่จะกระทบสิทธิเสรีภาพของบุคคล กรณีที่การละเมิดมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคล บริษัทฯ จะแจ้งเหตุการณ์ละเมิดให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบพร้อมแนวทางการเยียวยาโดยไม่ชักช้า
 
19. โทษของการไม่ปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    
การไม่ปฏิบัติตามนโยบายอาจมีผลเป็นความผิดและถูกลงโทษทางวินัยตามกฎเกณฑ์ของบริษัทฯ (สำหรับเจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานของบริษัทฯ) หรือตามข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (สำหรับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ทั้งนี้ ตามแต่กรณีและความสัมพันธ์ที่ท่านมีต่อบริษัทฯ และอาจได้รับโทษตามที่กำหนดโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมทั้งกฎหมายลำดับรองกฎระเบียบ คำสั่งที่เกี่ยวข้อง

20. การร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจกำกับดูแล
    ในกรณีที่ท่านพบว่า บริษัทฯ มิได้ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิร้องเรียนไปยังคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือตามกฎหมาย ทั้งนี้ ก่อนการร้องเรียนดังกล่าว บริษัทฯ ขอให้ท่านโปรดติดต่อมายังบริษัทฯ เพื่อให้บริษัทฯ มีโอกาสได้รับทราบข้อเท็จจริงและได้ชี้แจงในประเด็นต่าง ๆ รวมถึงจัดการแก้ไขข้อกังวลของท่านก่อนในโอกาสแรก

21. การปรับปรุงแก้ไขนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    บริษัทฯ อาจพิจารณาปรับปรุง แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทางเว็บไซต์ เช่น https://www.mitsubishi-kyw.co.th โดยมีวันที่มีผลบังคับใช้ของแต่ละฉบับแก้ไขกำกับอยู่ อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบนโยบายฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอผ่านช่องทางเฉพาะกิจกรรมที่บริษัทฯ ดำเนินการโดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ การเข้าใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทฯ ภายหลังการบังคับใช้นโยบายใหม่ ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในนโยบายใหม่แล้ว ทั้งนี้ โปรดหยุดการเข้าใช้งานหากท่านไม่เห็นด้วยกับรายละเอียดในนโยบายฉบับนี้และโปรดติดต่อมายังบริษัทฯ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป

22. การติดต่อสอบถามหรือการใช้สิทธิ
     หากท่านมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะ หรือข้อกังวลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ หรือเกี่ยวกับนโยบายนี้ หรือท่านต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่


บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เลขที่ 28 ถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. 10240
โทรศัพท์ : 02-763-7000 เบอร์ต่อ 5018, 5014, 5012
โทรสาร : 0-2379-4759
อีเมล : [email protected]

 
ประกาศ ณ วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2565
 
บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด