เทคนิคการเลือกเครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศมีประโยชน์ในการช่วยลดฝุ่นละอองและแบคทีเรียต่างๆที่อยู่ในอากาศบนพื้นที่บริเวณนั้นๆ ส่งผลให้ผู้ใช้งานได้รับอากาศบริสุทธิ์และดีต่อสุขภาพมากที่สุด โดยเทคนิคในการเลือกใช้เครื่องฟอกอากาศนั้นคนส่วนใหญ่มักเลือกจากแค่การดูขนาดของห้องเป็นหลัก แต่ในความเป็นจริงนั้นปัจจัยสำคัญที่ผู้ใช้งานจะละเลยไม่ได้เลยเมื่อต้องการเลือกเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมสักเครื่องคือค่า CADR
CADR คืออะไร?
ค่าอัตราการส่งผ่านอากาศบริสุทธิ์ หรือ CADR (Clean Air Delivery Rate) จะแสดงถึงประสิทธิภาพของความเร็วและคุณภาพอากาศที่ผ่านการฟอกอากาศ โดยเครื่องฟอกอากาศแบรนด์มิตซูบิชิ อีเล็คทริคนั้นมีค่า CADR ที่สูง สามารถฟอกอากาศได้อย่างครอบคลุม
สำหรับเครื่องประสิทธิภาพของค่า CADR ที่สูง
ค่า CADR ที่สูงจะแสดงถึงคุณภาพและความเร็วในการฟอกอากาศ เมื่อเปรียบเทียบกับแบรนด์ตามท้องตลาดทั่วไป โดยสามารถหาระยะเวลาในการฟอกอากาศได้ตามวิธีคำนวณดังนี้
ตัวอย่าง
กำหนดให้ : ห้องขนาด 25 ตร.ม. และสูง 2.7 ม.
CADR = 612 m3/h
ปริมาตรห้องคำนวณจาก 25 m2 ∙ 2.7 m = 67.5 m3
ตารางระยะเวลาในการฟอกอากาศเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง
แบรนด์ | ค่า CADR (m3/h) | ปริมาตรห้อง (m3) | ระยะเวลาในการฟอก (นาที) |
---|---|---|---|
เครื่องฟอกอากาศทั่วไป 1 | 340 | 67.5 | 12 |
เครื่องฟอกอากาศทั่วไป 2 | 408 | 10 | |
มิตซูบิชิ อิเล็คทริค | 612 | 7 |
สรุป
จากตารางระยะเวลาในการฟอกอากาศเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง พบว่าปริมาตรที่ใช้ทดสอบขนาด 67.5 ลูกบาศก์เมตร เริ่มจากเครื่องฟอกอากาศทั่วไป 1 มีค่า CADR 340 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง จะใช้เวลาในการฟอกอากาศ 12 นาที, เครื่องฟอกอากาศทั่วไป 2 มีค่า CADR 408 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง จะใช้เวลาในการฟอกอากาศ 10 นาที และเครื่องฟอกอากาศแบรนด์มิตซูบิชิ อิเล็คทริคมีค่า CADR 612 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง จะใช้เวลาในการฟอกอากาศ 7 นาที จากการทดสอบทั้ง 3 เครื่อง เครื่องฟอกอากาศแบรนด์มิตซูบิชิ อิเล็คทริคจะใช้เวลาในการฟอกอากาศน้อยที่สุด
และเมื่อเรานำมาคำนวณในระยะเวลา 1 ชม. เครื่องฟอกอากาศของมิตซูบิชิ อีเล็คทริคสามารถฟอกอากาศได้ถึง 8.5 รอบ ในขณะที่เครื่องฟอกอากาศทั่วไปทำได้เพียง 5 - 6 รอบเท่านั้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยในห้องปลอดภัยจากเชื้อโรคที่จะเข้าสู่ร่างกายและทำอันตรายต่อปอดของท่านและได้รับอากาศที่บริสุทธิ์ตลอดเวลาอย่างแท้จริง